วันดินโลก

"ประวัติศาสตร์ เอาเรื่อง..."

๕ ธันวาคม วันดินโลก
     ๕ ธันวาคม นอกจากจะเป็น วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติไทย และ วันพ่อแห่งชาติ ยังถือเป็น วันดินโลก โดยมีเจตนารมณ์ให้ผู้คนได้ร่วมตระหนักและเห็นความสำคัญของทรัพยากรดิน
วันดินโลก เกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเงินของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสมัชชาที่ ๖๘ ณ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยในที่ประชุมมีมติผลักดันการตั้ง วันดินโลก (World Soil Day) ขึ้นมา
     ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ คณะกรรมการบริหารสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ นำโดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สตีเฟน นอร์ตคลิฟฟ์ เดินทางเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล The Humanitarian Soil Scientist หรือ รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องจากพระองค์ทรงมีโครงการในพระราชดำริ ด้านการพัฒนา ดิน มากมาย อาทิ โครงการหญ้าแฝก โครงการแกล้งดิน โครงการแก้ดินเปรี้ยว ฯลฯ ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อมาองค์การสหประชาชาติ จึงประกาศให้ วันดินโลก (World Soil Day) ตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ โดยเริ่มต้นครั้งแรกในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติในพระราชกรณียกิจที่ทรงส่งเสริมและพัฒนาเรื่องดินในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน [1]

[1] https://www.thaipbs.or.th/now/content/552 (สันทัด โพธิสา ๔ ธ.ค. ๖๖)
ภาพ : จัดแสดงห้องสงครามดิน ภายในอาคารภูมิทรรศน์ ๑ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

 อนุสรณ์สถานแห่งชาติขอเชิญชวนชมพิพิธภัณฑ์ และการจัดแสดง "ห้องสงครามดิน" ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงพระราชกรณียกิจด้านดิน ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยทรงตระหนักถึงความเสื่อมโทรมของดิน ที่เกิดจากสาเหตุธรรมชาติ เช่น บางแห่งเป็นดินเปรี้ยวจัด ดินเค็ม หรือบางแห่งไม่มีดินเลย จึงทรงเรียกดินเหล่านี้ว่า "ดินแร้นแค้น" พระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ปัญหา ฟื้นฟู อนุรักษ์ดินของพระองค์นั้น มีลักษณะเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย ในทางปฏิบัติ เฉียบคมเหมาะเจาะ และชาวบ้านทั่วไปสามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยมีหลักการที่สำคัญ คือ ทรงเน้นการพัฒนาที่สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในการพึ่งตนเอง ทรงใช้คำว่า "ระเบิดจากข้างใน" คือทำให้ชุมชนเข้มแข็งก่อนจึงค่อยออกสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำความเจริญรุ่งเรืองจากภายนอกเข้าไปสู่ชุมชนที่ยัง ไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งรับ ขั้นต่อไป คือ พัฒนาให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้ตามสภาพและสามารถ "พึ่งตนเองได้" ในที่สุด

 ณ ห้องสงครามดิน ภายในอาคารภูมิทรรศน์ ๑ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ